330 หลวงปู่ทวด รุ่น 1 พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน ร้าน ตลาดพระเครื่อง พระบูชา พระยอดนิยม หนึ่งในสยาม
register
ร้านค้านี้ได้รับการยืนยันตน กับ พระแท้.คอม เรียบร้อยแล้ว ชื้อขายสบายใจ
 
 
 
 
รหัส :   13414
ชื่อพระ :  

330 หลวงปู่ทวด รุ่น 1 พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน

ร้าน :   Antig - apollon
ราคา:   1,200
สถานะ :   เปิดเช่าบูชา
การส่งของ :   ร่วมศึกษา
จำนวนที่เปิด :   1361
 
ติดต่อ ติดต่อร้านค้า: โทร : 0932480159 e-mail : ang7kong@gmail.com
ข้อความ :
ชื่อ :
อีเมลล์ :    
 
 
     
 

330  หลวงปู่ทวด รุ่น 1   พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน

330  หลวงปู่ทวด รุ่น 1   พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน

330  หลวงปู่ทวด รุ่น 1   พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน
 

 

330 หลวงปู่ทวด รุ่น 1 พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน พระมีขนาดกว้าง 2.07 cm ความสูง 3.42 cm หลวงพ่อทวด พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน วัดพระธาตุชัยมณีศรีฆะโลก อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เนื้อว่าน ประกันแท้ ท่านพระครูสมุห์แก้ว ปุญญภาโค วัดเขาปูน อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช วันนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักศูนย์กลางแห่งศรัทธาของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ที่ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบ อีกทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกก่อสร้างศาสนสถานมากมายให้เป็นอนุสรณ์แก่ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย นั่นก็คือ ท่านพระครูสมุห์แก้ว ปุญญภาโค แห่งวัดเขาปูน อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่รู้จัก และสาธุชนให้ความเคารพศรัทธาเรียกกันโดยทั่วไปว่า พ่อท่านแก้ว หรือ อาจารย์แก้ว ผู้รวบรวมเอาศรัทธาประชาชน ชาวนครฯ ช่วยกันก่อสร้าง พระธาตุชัยมณีศรีฆะโลก จากคนเป็นสิบ เพิ่มเป็นร้อย เป็นพัน เพื่อร่วมสร้าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ขึ้นมา สายธารที่หลั่งไหลไม่ขาดสายที่ร่วมบริจาคทั้งกำลังเงิน กำลังกายรวมถึง กำลังใจที่ส่งผ่านไป ทำให้องค์พระธาตุถูกสร้างออกมาได้สำเร็จเรียบร้อย แม้ว่าอุปสรรคจะมากมายก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรเกินไปกว่าความอุตสาหะ ความพยายามไปได้ พ่อท่านแก้ว หรือ ท่านพระครูสมุห์แก้ว ปุญญภาโค ได้เปิดเผยเกร็ดชีวิตและประวัติอันเป็นที่มาของการเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรว่า แต่เดิมนั้นท่านมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ตำบลสันทราย อำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรของ นายพรหม และนางจันทร์ เมฆลา เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2485 โอกาสทางการศึกษาของท่านนั้นต้องจบลงเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เท่านั้น เนื่องจากโยมบิดาได้มาเสียชีวิตลง ท่านอาจารย์แก้ว จึงต้องบวชเป็นสามเณรในวันฌาปนกิจศพของบิดา อันเป็นผลพวงให้ท่านอาจารย์แก้ว ได้เริ่มศึกษาพระธรรมวินัยเรื่อยมา จนเกิดความซาบซึ้งในพระธรรมคำสอน จนท่านอายุครบอุปสมบท จะด้วยบุญญาบารมีหรือจังหวะแห่งชีวิตก็มิอาจทราบได้ ท่านอาจารย์แก้ว ได้รับความเมตตาจากพระคุณท่านหลวงปู่แหวน สุจิณโน พระเถระชั้นผู้ใหญ่อันเป็นที่เคารพศรัทธาชาวล้านนา และประชาชนทั่วประเทศ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านจึงได้ติดตามหลวงปู่แหวนออกธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ ประมาณเวลาได้ 6 พรรษา หลวงปู่แหวน จึงได้หยุดธุดงค์ เป็นเหตุให้ท่านอาจารย์แก้ว ต้องออกธุดงค์ต่อเพียงลำพัง เดินทางไปเรื่อยๆ ผ่านภาคอีสาน เลยไปถึงประเทศลาว และกัมพูชา อีกประมาณ 3 พรรษา ก่อนจะกลับมาลาสิกขามาใช้ชีวิตฆราวาส มีครอบครัวและบุตรธิดารวม 4 คน ชีวิตฆาราวาส ของพ่อท่านแก้วหาได้มีความสงบสุขไม่ ท่านจึงต้องกลับเข้ามาอุปสมบทใหม่อีกครั้ง จากนั้นท่านก็ได้ออกธุดงค์ไปยังภาคต่างๆ อีกครั้งเพราะท่านได้รู้ซึ้งถึงสัจจธรรมแห่งชีวิตแล้วว่า ความสุขใดมากมายหมื่นแสนย่อมมลายหายไปไม่ยั่งยืน เหมือนความสุขแห่งพระบวรพุทธศาสนา ภายใต้ร่มกาสาวพัตรอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้หามีไม่ ท่านจึงออกเดินธุดงค์แต่เพียงผู้เดียวอีกครั้ง หลังจากที่ท่านได้เดินทางกลับจากพม่า และกลับมาพักที่เชียงใหม่อีกระยะหนึ่ง ด้วยโชคชะตาคงเป็นผู้กำหนดและลิขิตไว้แล้ว พ่อท่านแก้ว ได้เกิดนิมิตอันอัศจรรย์ ว่าได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังดินแดนสวรรค์ชั้นฟ้า โดยครั้งนั้นทำให้ท่านได้ทราบว่าหากท่านจะได้มาอยู่บนสวรรค์ชั้นนี้แล้ว ท่านต้องปฏิบัติกิจอันเป็นมหากุศลในดินแดนที่ซึ่งห่างไกล ณ จุดนี้เองทำให้ พ่อท่านแก้ว ตั้งจิตแน่วแน่อธิษฐานธุดงค์ว่า จะออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ที่ท่านไม่เคยไปมาก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยในแถบภาคเหนือ อีสาน รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา หรือกรุงชิง ประเทศจีนตอนใต้ที่เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นที่ซึ่ง พ่อท่านแก้ว ไปจาริกแสวงบุญมาแล้วทั้งสิ้น ท่านจึงตั้งใจออกธุดงค์ทางใต้จุดเริ่มต้นของการประกอบกิจมหากุศลของ พ่อท่านแก้ว ซึ่งต้องพบกับอุปสรรคมากมายนานัปการ ชาวบ้าน ผู้เลื่อมใสศรัทธาในตัว พ่อท่านแก้ว ต่างพากันโจษจันถึงบุญญาบารมีของท่านอย่างมากมาย จนเป็นที่มาแห่งศรัทธามหาศาลไม่ว่า พ่อท่านแก้ว จะไปอยู่ที่ใดก็ตาม ครั้งหนึ่ง"พ่อท่านแก้ว" ได้ธุดงค์ไปปักกลดที่ถ้ำขุนคลังอะนมีตำนานล่ำลือกันว่า ถ้ำนี้เป็นที่เก็บสมบัติของพญาขุนคลัง แต่หากไม่เคยมีผู้ใดกล้าเข้าไปย่างกราบมาก่อน แต่หลังจาก "พ่อท่านแก้ว"ได้เข้ามาบุกเบิกและปฏิบัติธรรมในถ้ำนี้ ทำให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้มายลโฉมความงามของถ้ำขุนคลังอย่างทั่วถ้วน แต่ความเงียบสงบที่เหมาะแก่การวิปัสสนากรรมฐานกำลังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะยิ่งนับวันลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วสารทิศไม้มากราบนมัสการโดยตลอด มีทุกสาขาอาชีพทำให้ที่แห่งนี้พลุกพล่านด้วยเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่และทหารในท้องถิ่น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อขบวนการทำไม้เถื่อน ธุรกิจนับร้อยล้านของเหล่ามิจฉาชีพต้องหยุดชะงัก อันส่งผลกระทบต่อ "พ่อท่านแก้ว" ด้วยแผนก่อกวนเพื่อให้ออกพื้นที่โดยเร็วที่สุด และนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ลูกศิษย์ที่เป็นห่วงความปลอดภัยของ"พ่อท่านแก้ว" จึงได้อาราธนาให้ท่านออกธุดงค์ต่อเพื่อความปลอดภัย เหมือนสวรรค์ชี้ทางให้"พ่อท่านแก้ว" เดินทางมาถึงสถานที่ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบันของท่าน นั่นคือ "วัดเขาปูน"นั่นเอง ชาวบ้านซึ่งอยู่ในละแวกเขาปูน อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นี้มีความเชื่อว่า "เขาปูน"เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ "พ่อท่านแก้ว" ได้ธุดงค์มาปฏิบัติธรรม และเล่าว่า เมื่อพ.ศ.2528 ท่านเองก็ได้นิมิตเห็นเทพสององค์มาบอกเรื่องการสร้างพระธาตุบนยอดเขาปูน แต่ความจริงนั้นอุปสรรค์ของการสร้างครั้งนี้ก็คือ ยอดเขาที่เต็มไปด้วยหินแหลมคมและหน้าผาอันสูงชัน ซ้ำด้วยยังมีต้นไม้อันหนาทึบ แต่ก็กลับมีนิมิตอันอัศจรรย์เกิดขึ้นคือ มีงูตัวใหญ่เลื้อยหายเข้าไป"พ่อท่านแก้ว" จึงได้พาคณะตามทางที่งูเลื้อยขึ้นไป ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถขึ้นไปสู่ยอดเขาปูนได้อย่างง่ายดาย หลังจากการสำรวจครั้งนั้นแล้วจึงเริ่มทำการก่อสร้าง เมื่อข่าวการสร้างพระธาตุแพร่หลายออกไป ความคิดเห็นต่างๆของชาวบ้านก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ "พ่อท่านแก้ว" ก็ยังคงยืนยันเจตนาเดิมโดยการทำป้ายขนาดใหญ่ไว้ที่เชิงเขาปูนว่าจะทำการสร้างพระธาตุบนยอดเขาปูนมูลค่า 10 ล้านบาท เป็นการเชิญชวนผู้ศรัทธาร่วมสร้าง ข่าวความศรัทธาที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสายของผู้ที่มาช่วยงาน ด้วยเห็นความมุ่งมั่นของ"ท่านอาจารย์แก้ว" ที่นำคณะลงมือทำงานเองไม่ว่าจะเป็นการแบกถังปูน โบกถัง เป็นการสร้างกำลังใจอันยิ่งใหญ่ให้กับทุกคน ทำให้ช่วยกันทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ข่าวแพร่กระจายออกไปทำให้พลังศรัทธาไหลบ่ามาเป็นจำนวนมาก เมื่อประชาชนทั่วสารทิศ ทราบข่าวก็เดินทางมาช่วยเหลือทำบุญ สมทบทุนจนสร้างพระธาตุเสร็จใน พ.ศ.2530 และนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ มาก่อสร้างขึ้นมากมายดังที่พบเห็นในปัจจุบันและบนยอดเขาปูนยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระเจ้าตากสิน และพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนได้สักการบูชา เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจในความศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อ"พ่อท่านแก้ว"พระธุดงค์ต่างถิ่นที่ได้มาสร้างพุทธ สถานสำคัญในเมืองนครฯแห่งนี้ภายในเวลาไม่กี่ปี รวมทั้งภายในวัดเขาปูนนี้ และตลอดเวลา "ท่านอาจารย์แก้ว" ยังได้คำนึงถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน โดยเฉพาะความเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งโรคมะเร็งก็ยังเป็นโรคร้ายแรงในขณะนั้น "พ่อท่านแก้ว" จึงได้มีความคิดจัดสร้างโรงพยาบาลที่รักษาโรคมะเร็งโดยเฉพาะ โดยท่านเองต้องการจะทำสิ่งที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนโดยทั่วไปอย่างใจจริง ซึ่งการรักษาในโรงพยาบาลแห่งนี้จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทำให้ชื่อเสียงของพ่อท่านแก้ว เป็นที่รู้จักและศรัทธามากขึ้นโดยไม่มีวันที่จะเสื่อมคลาย


โดย พระแท้.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา

Copyright Pratae.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย พระแท้ ดอทคอม.
Design by IT Citizens Co., Ltd.